บอกลารอยแตกลาย

บอกลารอยแตกลาย

ปัญหารอยแตกลายบนผิวหนังเป็นปัญหาน่ากวนใจที่ไม่มีใครอยากเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง แต่เชื่อหรือไม่ว่าร้อยละ 90 ของผู้หญิงมีปัญหานี้ ทำให้เสียความมั่นใจและต้องหาทางปกปิด มาทำความรู้จักกับสาเหตุ วิธีป้องกัน และรักษารอยแตกลายกัน

ความจริงเรื่องรอยแตกลาย
      รอยแตกลายเกิดจากผิวหนังและเนื้อเยื่อที่ยืดขยายจนแตก (ลองนึกภาพหนังยางที่ถูกดึงจนแตกดู) โดยในระยะแรกรอยแตกจะเป็นสีชมพูหรือม่วง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีขาวหรือสีเงิน และมีรอยขรุขระลึก ซึ่งรักษาได้ยาก โดยลักษณะรอยแตกขึ้นอยู่กับสีผิวและสภาพผิวว่าได้รับผลกระทบจากรอยแตกมากแค่ ไหน

      ส่วนใหญ่รอยแตกลายจะเกิดขึ้นหลังจากน้ำหนักขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว จึงพบได้เสมอในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต และมีระดับฮอร์โมนสเตียรอยด์เพิ่มขึ้นจนทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง เห็นชัด นอกจากนี้ถ้าแม่มีรอยแตก ลูกสาวก็อาจจะมีรอยแตกลายได้ด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ชายนั้น การยกน้ำหนัก กรรมพันธุ์ และความอ้วน เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยแตกลายได้

หลีกเลี่ยงรอยแตกลาย
      จริงๆ แล้วรอยแตกลายก็คือแผลเป็นนั่นเอง การกำจัดรอยแตกลายให้หายไปเลยจึงทำได้ยาก การป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

      - การดื่มน้ำเยอะๆ ถือเป็นหนึ่งในการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยไม่ให้ผิวหนังเสียความยืดหยุ่น

      - กินอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามินเค อี ซี สังกะสี และซิลิกาเพื่อให้ร่างกายผลิตโปรตีนที่จำเป็นต่อการยืดหยุ่นของผิวหนัง

      - ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ผิวหนังยืดหยุ่น เพราะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นและกระชับชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่ 2 ที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจนและอิลาสติน

      - หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

      - ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บนผิวที่เสี่ยงต่อการแตกลาย การทำให้ผิวชุ่มน้ำจะทำให้ผิวยืดหยุ่นได้มากขึ้น

      - ขัดผิวด้วยสบู่หรือสครับ โดยขัดเบาๆ เพื่อช่วยกระบวนการยืดหยุ่นและหดตัวของผิวหนัง หลีกเลี่ยงการใช้เกลือขัดตัวเพราะจะทำให้ผิวแห้งและทำให้ปัญหาแย่ลง

บอกลารอยแตกลาย
     
วิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับผิวแตก ลายคือการป้องกัน เพราะถ้าผิวแตกลายแล้วจะรักษาให้หายได้ยาก แต่ทุกวันนี้ก็มีครีมและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแก้ไขรอยแตกลายให้เลือกใช้มากมาย ในท้องตลาด ลองมาดูกันดีกว่าว่าอะไรได้ผล หรือไม่ได้ผลเพราะอะไร

      - กรดไกลโคลิก เป็นที่รู้จักว่ามีคุณสมบัติคืนความ อ่อนเยาว์ สามารถช่วยให้รอยแตกลายจางลงได้ แต่อาจทำให้ผิวหนังลอกได้ เนื่องจากกรดไกลโคลิกเผยผิวที่สุขภาพดีกว่าโดยการลอกผิวหนังชั้นบนสุดออก

      - วิตามินซี ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจน (ที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง) และทำงานร่วมกับกรดไกรโคลิกได้ดี

      - เปปไทด์ ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ช่วยฟื้นฟูผิวได้จริง

      - เรตินอยด์ อยู่ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์วิตามินเอ มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในช่วงต้น ทำให้รอยแตกลายดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรตินอยด์จะไม่มีประสิทธิภาพถ้ารอยแตกลายเป็นสีขาว ที่สำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการใช้เรตินอยด์ในขณะตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้ทารกเกิดความพิการได้

      - กรดไกลโคลิกและเรตินอยด์ มีประสิทธิภาพรักษารอยแตกลายได้ดีกว่าเมื่อใช้ร่วมกัน เพราะจะเพิ่มความยืดหยุ่นของรอยแตกลายได้

      - น้ำมันวีทเจิร์ม อุดมไปด้วยวิตามินอี มีการศึกษาพบว่าน้ำมันวีทเจิร์มทำให้รอยแตกลายดีขึ้นได้ถ้าใช้ตอนเริ่มเป็น